หนัง musical

 หนัง musical Furious 7 : Get Low (Photo From Reddit.com)

แม้ OST แบบอย่างซึ้งๆรวมตัวกันแบคกราวน์ พระเอกผู้ล่วงลับ อย่างเพลง ‘See You Again’ ของ ‘Wiz Khalifa’ ฟีเจอริ่ง ‘Charlie Puth’ จะเช่นเดียวกับเป็นพลุแตก..ก็ตาม!! แต่ซาวด์ประกอบที่จะห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดจริงๆ ของ ‘Furious 7’ คือเพลงที่จะปฏิบัติหน้าที่ส่งเสริมความมันส์ของหนัง จำพวก ‘Electronic Dance’ แรงๆ..ซึ่งจำเป็นที่จะต้องยอมรับว่ากลุ่มสร้าง ทำงานกันได้ดิบได้ดีมากๆ เพราะเหตุว่า OST เต็มของภาคนี้ ถือได้ว่า ‘โคตรดี’ ทั้งอัลบั้ม!! โดนเฉพาะ ‘Get Low’ ของสองดีเจ/ได้โปรดิวเซอร์ ‘Dillon Francis’ และ ‘DJ Snake’.. เพลงที่เต็มไปด้วยประจุพลังของ อิเล็กทรอนิกส์ และซาวด์บรรยากาศเดือดๆสไตล์ ‘ตะวันออกกลาง’(Middle-Eastern Style) ในแบบอย่างของ ‘Trap Music’!!

Begin Again

“พวกเราจะกล่าวตัวตนของคนนั้นได้ จากเพลลิสของเขา” ประโยคจากหนังหัวข้อนี้ส่งผลให้ผมมีความคิดว่า “เห้ยจริงหว่ะ” หนังเรื่องนี้ได้ชื่อศัพท์แสงไทยว่า “เหตุเพราะรักคือเพลงรัก” คือมันก็จริงๆ ไม่ว่าจะความรักเวอร์ชั่นไหน หนังmusical เพลงรักก็สามารถตอบคำถามความรักได้ทุกแบบอย่าง ตัวหนังส่งผลให้พวกเราพิจารณาถึงหนังอย่าง Once อยู่กลายๆ (เนื่องจากว่าอาจจะผู้กำกับคนเดียวกันก็เป็นไปได้) แต่ในหัวข้อนี้เหมือนมีอะไรที่มันแตกต่างและแสดงความเป็นตัวของเราเองได้มากกว่า และที่สำคัญเพลงในประเด็นนี้โคตรเนื่องมาจาก ด้วยเสียงของ เคียร่า ไนท์ลีย์ ไหมก็อดัม เลวทรามีน และมีเพลงติดหูเยอะแยะ อาทิเช่น “Lost Star” ผมบอกได้เลยว่ารู้จักกันทั้งบ้านทั้งเมือง

มีฉากหนึ่งในหนังเป็นฉากที่ Mark Raffalo อยู่ภายในผับ และเหน้าจอ เคียร่า ไนท์ลี่ย์ กำลังเล่นดนตรี ตัวเขาเองก็จินตนาการว่าจะบรรจุกลอง บรรจุคีย์กระดาน บรรจุทำนอง ฉากนั้นเป็นฉากที่ตราตรึงใจผมมาก

โดยสถานะการณ์ของหนังหัวข้อนี้เป็นเรื่องดังเกี่ยวกับ เกรต้า ที่รับบทโดย เคียร่า ไนท์ลีย์ สาวนักแต่งเพลงที่ใช้ชีวิตเข้าร่วมกับ เดฟ (อดัม ทรามีน) ด้วยความที่แฟนตนเองเช่นเดียวกับ เป็นที่รู้จัก+ผู้หญิงเข้ามา ส่งผลให้เกรต้า เคว้ง จนมีวันนึงเธอได้ไปเล่นดนตรีร้องเพลง จนเตะตาขอความกรุณาิวเซอร์ตกอับอย่าง แดน (มาร์ค รัฟฟาโล่) ทั้งคู่จึงดำเนินการงานเข้าร่วมประดิษฐ์บทเพลงสุดแสนจะไพพวกเราะออกมาให้เราได้ฟังกัน

หนัง musical

หนัง musical The Last Five Years (2014)

สารภาพว่าไม่เคยคิดจะชมหนังเรื่องนี้มาก่อนเลย เพราะว่ามีแต่คนบอกว่าเป็น musical ที่เพลงไม่เนื่องด้วย จนถึงได้ยินคนพูดว่ามันเล่าเรื่องความเชื่อมโยงชาย-เพศหญิงคู่หนึ่งแบบสวนทางกัน เล่าฝ่ายชายจากเริ่มคบไปถึงช่วงกล่าวเลิก เล่าฝ่ายหญิงจากขณะเลิกไปขณะคบกันใหม่ ๆ ซึ่งผมมองว่ามันน่าสนใจดีว่าจะทำให้มันมาบรรจบกันเช่นไร

หนังเล่าเรื่องของ ‘เคธี่’ (Anna Kendrick) เพศหญิงสาวที่ดิ้นรนจะบรรลุความสำเร็จในอาชีพการชี้ให้เห็น เธอเป็นภรรยาของ ‘เจมี่’ (Jeremy Jordan) คนเขียนนิยายที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงตั้งแต่ยังเรียนมหาลัย แต่สิ่งที่เป็นปัญหานั้นก็คือเธอไม่อาจจะเป็นช้างเท้าหลังได้ชั่วชีวิต เธอต้องการเขยิบตัวเราเองขึ้นมาเปรียบเท่ากับเขา

The Sound of Music (1965)

เมื่อเอ๋ยถึงหนังเพลงชื่อของหนัง The Sound of Music มนต์รักเพลงสวรรค์ คงอาจจะเป็นชื่อเรื่องที่ผู้ใดผู้คนจำนวนมากพิจารณาถึง โดยเฉพาะฉากทุ่งนางเอกของเรื่องร้องเพลง The Sound of Music อยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าของขุนเขาแอลป์ยังอาจสร้างความจับอกจับใจให้คนไหนหลายท่านอยู่อย่างแน่นอน โดยหนังดัดเปลี่ยนมาจากเรื่องจริงของครอบครักลุ่มคำ้ภัยสงครามจากหมู่นาซี ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 มาเรีย

แม่ชีสาวที่ออกมาจากคอนแวนต์ มาชมแลลูก ๆ ทั้ง 7 คน ของกัปตันวอน แทรปป์ หนัง musical พ่อหม้ายนายทหารแห่งกองทัพออสเตรีย ผู้ซึ่งปกครองลูก ๆ อย่างเคร่งครัดเจ้ากฎข้อบังคับ เด็ก ๆ มิได้รับอนุญาตให้ฟังเพลงหรือเล่นบันเทิงใจ การมาของมาเรียทำให้เกิดความสดใสร่าเริงและเสียงเพลงมาสู่บ้านที่เคยมีแต่ความเคร่งเครียด สร้างความจับใจให้ผู้กองจนกระทั่งเป็นความรัก และท้ายที่สุดทั้งคู่ก็แต่งงานกัน หนังเรื่องนี้มีความสนุกสนานของบทเพลงที่แทรกอยู่ไม่ว่าจะเป็นเพลงคุ้นหูอย่าง My Favorite Things, Do-Re-Mi, Sixteen Going on Seventeen และ The Lonely Goatherd นั่นเอง


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

จอห์นวิค3

ambking123